เมนู

อถ วา ทุเขน ทุกฺขฺ โทมนสฺสํ ปฏิสํเวเทติ ฉันใด บางแห่งก็ว่า เอกํ
บางแห่งก็ว่า เอกกํ ก็ฉันนั้น . แต่ในที่นี้มีปาฐะนี้อย่างเดียวว่า เอกํ นาม.

พรรณนาปัญหาว่า อะไรเอ่ย ชื่อว่า 2


พระศาสดา ผู้มีจิตอันพระเถระทำให้ทรงยินดีด้วยการพยากรณ์นี้อย่าง
นี้แล้ว จึงตรัสถาม หายิ่งในรูป เหมือนนัยแรกว่า อะไรเอ่ย ชื่อว่า 2
พระเถระกล่าวซ้ำว่า เทฺว 2 ทูลตอบด้วยเทศนาเป็นบุคลาธิษฐานว่า คือนาม
และรูป. บรรดานามและรูปนั้น เรื่องที่มิใช่รูปทั้งหมด ท่านเรียกว่านาม เพราะ
น้อมมุ่งหน้าสู่อารมณ์อย่างหนึ่ง เพราะเป็นเหตุน้อมจิตไปอย่างหนึ่ง. แต่ในที่นี้
ท่านประสงค์เอาธรรมที่มีอาสวะเท่านั้น เพราะเป็นเหตุแห่งนิพพิทาความหน่าย
ส่วนมหาภูตรูป 4 และรูปทั้งหมดที่อาศัยมหาภูตรูปนั้นเป็นไป ท่านเรียกว่า
รูป เพราะอรรถว่า แตกสลาย. รูปนั้นในที่นี้ ท่านประสงค์เอาทั้งหมด.
แต่พระเถระกล่าวในที่นี้ว่า ชื่อว่า 2 คือนามและรูป ก็โดยความประสงค์นี้
แล มิใช่กล่าวเพราะไม่มีธรรม 2 อย่างอื่น เหมือนอย่างที่ตรัสไว้ว่า
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ในธรรม 2 อย่าง ภิกษุ
เมื่อหน่ายโดยชอบ ฯลฯ ย่อมเป็นผู้ทำที่สุดทุกข์ได้ใน
ธรรม 2 อย่าง คือนานและรูป ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
ในธรรม 2 อย่างนี้แล ภิกษุเมื่อหน่ายโดยชอบ ฯลฯ
ย่อมเป็นผู้ทำที่สุดทุกข์ได้ คำนั้นใดว่า ปัญหา 2
อุทเทส 2 ไวยากรณ์ 2 ดังนี้ คำนี้ เราอาศัยอันนี้
กล่าวแล้ว.

ก็ในปัญหาข้อนี้ พึงทราบว่า ภิกษุละอัตตทิฏฐิความเห็นว่าเป็นตน
ได้ ด้วยการเห็นเพียงนามรูปแล้ว เมื่อหน่ายโดยมุขคือการพิจารณาเห็นอนัตตา